การเตรียมตัวสอบใบขับขี่รถยนต์
Driving License.
การเตรียมตัวสอบใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ เป็นสิ่งสำคัญ
เพราะนอกจากจะเป็นตัวบ่งบอกว่าเราเรียนรู้และเข้าใจกฎหมายและเครื่องหมายจราจรแล้ว
ยังเข้าใจในการใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย ตำรวจไม่จับ
เวลาเกิดอุบัติเหตุใบขับขี่สำคัญมากๆ
ในสมัยนี้ โดยเฉพาะ การประกันภัยชั้น
1 ที่รถใหม่ป้ายแดงถูกบังคับต้องทำประกันภัยทุกคัน แล้วถ้าคุณไม่มีใบอนุญาตขับขี่ในขณะเกิดอุบัติเหตุ
หล่ะ... จะเกิดอะไรขึ้น จากที่คุณเป็นฝ่ายถูกจะกลับกลายเป็นฝ่ายผิดโดยไม่จำเป็น “เนื่องจากคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถบนทางสาธารณะนั่นเอง”
เตรียมตัวอย่างไรก่อนการสอบใบขับขี่
-
อันดับแรกคุณต้องศึกษาและเรียนรู้กฎหมาย และเครื่องหมายจราจรต่างๆ
ให้เข้าใจเสียก่อน
-
ต่อมาฝึกหัดขับรถให้เก่งพอประมาณหรือขั้นชำนาญเลยยิ่งดี
ปรกติแล้วผู้ที่มีรถยนต์อยู่แล้วที่บ้าน อาจจะเป็นรถยนต์ของสามีหรือภรรยา ช่วยฝึกหัดให้ก็จะดี
เมื่อมีความมั่นใจแล้วค่อยสอบใบขับขี่ ถ้าที่บ้านไม่มีรถยนต์ คุณสามารถเข้าคอร์ทเรียนขับรถยนต์กับสถาบันที่เปิดสอนก็ได้
คุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิ์สอบใบขับขี่
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์
ต้องมีอายุ 15 ปี ขึ้นไป
- ใบขับขี่รถยนต์ ต้องมีอายุ
18 ปี ขึ้นไป
- ไม่เป็นผู้พิการทางสายตา
(ตาบอด)
- ไม่มีอาการตาบอดสี
สำหรับผู้พิการดังต่อไปนี้
ถ้าต้องการทำใบขับขี่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อรับคำปรึกษา
- ผู้พิการแขนขาดข้างเดียว
- ผู้พิการขาขาดข้างเดียว
- ผู้พิการตาบอดข้างเดียว
- ลำตัวพิการ
- หูหนวก
เอกสารในการยื่นขอสอบใบขับขี่
- บัตรประชาชนตัวจริง
พร้อมสำเนา
- กรณีไม่มีบัตรประชาชน
ให้ใช้บัตรข้าราชการ หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่ใช้แทน พร้อมสำเนา
- ทะเบียนบ้าน
พร้อมสำเนา
- ใบรับรองแพทย์
มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
- รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว (3x4 เซนติเมตร) ครึ่งตัว หน้าตรง ไม่สวมหมวก และแว่นตาดำ 2 รูป อายุไม่เกิน
6 เดือน
- ใบคำร้องขออนุญาตขับรถ
จากกรมการขนส่งทางบก
ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย
ดังนี้
- ทดสอบตาบอดสี
โดยให้เรียกชื่อสีหลังจากเห็นสัญญาณไฟจราจรจำลอง
- ทดสอบสายตาทางลึก
โดยการกดปุ่มเลื่อนเสา 2 เสา ให้อยู่ตำแหน่งตรงกัน
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
เป็นการทดสอบการมองกระจกข้าง โดยการจ้องที่จุดสีตรงกลาง แล้วมีสีต่างๆ
ขึ้นมาให้เห็นทางหางตาทั้งสองข้าง ให้ตอบให้ถูกต้องว่าสีที่หางตาคือสีอะไร
- ทดสอบการใช้เท้า
โดยการเหยียบคันเร่ง แล้วเหยียบเบรกหลังเห็นสัญญาณไฟแดง ต้องผ่านเกณฑ์ 2 ใน 3
ครั้ง
อบรมทฤษฎีการขับขี่รถยนต์
การอ่านป้ายจราจรต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
สอบข้อเขียนเกี่ยวกับทฤษฎีในการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์
มีเวลา 1 ชั่วโมง
สอบปฏิบัติการขับขี่รถยนต์
ขั้นตอนต่างๆ หลายท่านอาจจะทราบบรรทัดฐานมาแล้ว แต่ผมจะเสริมในเรื่องที่หลายๆ ท่านอาจมองข้ามไป
หรือคาดไม่ถึง
ในความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งที่ควบคุมในการทดสอบ แต่ละเขตที่อาจจะมีไม่เท่ากัน
ก็คือในเรื่องของเข็มขัดนิรภัย หรือที่เรียกกันติดปากว่า
Safety
Belt นั่นเอง.... เมื่อท่านเปิดประตูรถยนต์และก้าวเท้าเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ควรทำคือคาด Safety Belt ทันที เพื่อป้องกันการลืม เพราะถ้าท่านไม่คาดท่านจำไว้เลยว่า ถึงท่านจะปฏิบัติขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ท่านอาจจะไม่ผ่านการทดสอบภาคปฏิบัติก็ได้ ที่ผมต้องใช้คำว่า “อาจจะไม่ผ่าน” เพราะขึ้นอยู่กับความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่นั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น