วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ฮอนด้าบริโอ รถอีโคสปอร์ต Honda Brio

-->
ฮอนด้าบริโอ รถอีโคสปอร์ต  Honda Brio


ฮอนด้าบริโอ (Honda Brio) จากค่ายรถยนต์HONDA เป็นรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน หรือรถอีโคคาร์  ซึ่งปัจจุบันเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทยหลังจากที่เปิดตัวมาไม่นาน ฮอนด้าบริโอคือรถยนต์อีโคที่มากกว่าความประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตร / ลิตร แต่ยังให้ความแรง 90 แรงม้า ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ i-vtec ที่เหนือกว่ารถอีโคในระดับเดียวกัน มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำสมัยของ HONDA ให้สูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง ฮอนด้ามุ่งพัฒนายนตรกรรมรุ่นนี้ ให้ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และคล่องตัวแม้ในสภาพการจราจรที่แออัดในเมือง รถต้นแบบ ฮอนด้า บริโอ้ มีขนาดเล็กกะทัดรัด ง่ายต่อการขับขี่ (ความยาว 3,610 มม. X ความกว้างกว้าง 1,680 มม. X ความสูง 1,475 มม.) ขณะที่ห้องโดยสารมีพื้นที่ใช้งานอย่างเพียงพอ ด้วยการจัดวางอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฮอนด้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ด้วยความพิถีพิถันอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้รูปทรงที่ล้ำสมัย มีขนาดกะทัดรัด และโดดเด่นสะดุดตาในขณะเดียวกัน
สำหรับฮอนด้า บริโอ้ เป็นรถยนต์สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์เป็นพาหนะ ฮอนด้าจึงพัฒนารุ่นที่เหมาะกับประเทศไทยและอินเดียโดยเฉพาะ ทั้งนี้เพื่อสะท้อนความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในทั้งสองประเทศ คุณสมบัติที่ทำให้ฮอนด้าบริโอเหนือกว่ารถอีโคในระดับเดียวกัน คือ เครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบ i-VTEC  ความจุกระบอกสูบ 1,198 cc ทุกรุ่น  นอกจากนี้ยังให้ความเป็นรถสปอร์ตโดยกระจังหน้าแบบโครเมี่ยม   สปอยเลอร์หลังและไฟเบรกดวงที่สาม พวงมาลัยมีรุศมีวงเลี้ยวแคบถึง 4.5 เมตร ช่วยให้เลี้ยวจอดในที่แคบได้ง่ายขึ้น ระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล มีถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมระบบป้องกันล้อล็อคตายด้วย ABS และกระจายแรงเบรค EBD  ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุในขณะเหยียบเบรกกะทันหันเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วสูง กุญแจนิรภัย immobilizer  จะไม่สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ได้หากไม่ใช่กุญแจรถยนต์ที่ถูกต้อง  เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกดบริเวณหน้าอกเพื่อลดอาการบาดเจ็บ กระจกหลังเป็นกระจกนิรภัย ทนทานกับแรงกระแทกจากด้านหลัง  ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มีให้ทุกรุ่นในฮอนด้าบริโอ  จึงนับว่าฮอนด้าบริโอ เป็นรถอีโคสปอร์ตที่น่าจับตามองในตลาดเมืองไทย โดยเฉพาะฮอนด้าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์นั่งอยู่แล้ว
ที่มา : HONDA THAILAND

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิธีดูแลรักษาแบตเตอร์รี่ให้อายุการใช้งานที่นานขึ้น

-->
วิธีดูแลรักษาแบตเตอร์รี่ให้อายุการใช้งานที่นานขึ้น
ช่วงนี้อากาศเย็นลงบวกกับแบตเตอร์รี่เสื่อมสภาพ  ตอนเช้าเลยสตาร์ทรถไม่ค่อยติดบางวันก็ไม่ติดเลย บังเอิญมีรถยนต์สองคัน คือปิคอัพ ISUZU  สี่ประตู  และ HONDA  JAZZ  ที่เพิ่งถอยมาใหม่ยังไม่สิ้นกลิ่นป้ายแดง คันที่ว่าแบตเตอร์รี่เสื่อมคือ ISUZU  เลยไปหาซื้อสายพ่วงแบตเตอร์รี่มาพ่วง ก็พอประดังไปได้บ้าง  แต่คิดดูแล้วถ้าเกิดไปไหนมาไหนไกลๆ แล้วจอดทิ้งไว้เกิดสตาร์ทไม่ติดจะทำยังไง  ปัจจุบันแบตเตอร์รี่รถยนต์ขนาด 100 แอมป์  3 K  Battery ไม่แลกแบตเตอร์รี่เก่าราคา 2,500 บาท  GS Battery ราคา 2,600 บาท  มองดูแบตเตอร์รี่ลูกเก่าก็ยังใหม่  เลยคิดหาวิธีที่จะประหยัดเงินค่าแบตเตอร์รี่ ด้วยการล้างทำความสะอาดดู
ค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ทเจออยู่เว็บหนึ่ง แต่เป็นคลิปวีดีโอหลังจากได้เปิดดูน่าสนใจไม่น้อยจึงได้จับใจความและลองมาทำดูได้ผลดีเกินคาด  พอดีบวกกับผมเป็นช่างไฟฟ้าเข้าทางผมพอดี  เลยจัดการซะ  ดังนั้นผมเห็นว่ามีประโยชน์อย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ที่มีรถประหยัดค่าซ่อมบำรุงไปได้อีกนาน  จึงได้ทบทวนและร่างออกมาเป็นตัวหนังสือเพื่อเผยแพร่ทางเว็บไซต์  อาจจะไปซ้ำกับเว็บอื่นบ้างก็ขออภัย
อันดับแรกต้องเตรียมอุปกรณ์ก่อน
1.       น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็ด ขวดสีม่วง   1    ขวด
2.       น้ำกรดผสมสำหรับเติมแบตเตอร์รี่ หาซื้อตามร้านขายแบตเตอร์รี่  ขวด (ใช้จริงประมาณ 4 ขวด )
3.       เพื่อความปลอดภัยควรสวมถุงมือยาง หาซื้อได้ทั่วไป
4.       กระบอกกรวย และภาชนะที่เป็นพสาติก
ขั้นตอนการทำความสะอาดแบตเตอร์รี่
                1.   อันดับแรกควรใช้หม้อหุงข้าวอลูมิเนียมใหญ่ๆ ต้มน้ำร้อนรอไว้ก่อนเลยให้เดือด
2. ถอดขั้วแบตเตอร์รี่และนำออกจากรถยนต์  จัดสถานที่ ที่จะทำความสะอาดให้เหมาะสมเช่นในที่โล่งแจ้ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก  นำแบตเตอร์รี่มาวางและเขย่าให้ทั่วประมาณ 10 นาที    หลังจากนั้นเปิดฝาออกให้หมดแล้วคว่ำแบตเตอร์รี่ให้น้ำกรดลงในภาชนะที่เตรียมไว้
3.  นำน้ำร้อนเทกรอกใส่ไปในแบตเตอร์รี่ให้ครบทุกๆ ช่อง ให้ปริมาณน้ำร้อนท่วมแผ่นธาตุ  แล้วนั้นปิดฝาจุกแบตเตอร์รี่   จากนั้นเขย่าให้ทั่ว แล้วเทน้ำร้อนออก  ล้างด้วยน้ำร้อนประมาณ 2- 3 ครั้ง
4.   ก่อนนำน้ำยาล้างห้องน้ำ  เทใส่ในแบตเตอร์รี่  ควรนำน้ำร้อนเทใส่ลงไปให้ท่วมแผ่นธาตุแผ่นธาตุอีกครั้ง จากนั้นให้นำน้ำยาล้างห้องน้ำ (เป็ด)  รินใส่ฝาขวดให้เต็มพอประมาณและเทใส่ในช่องแบตเตอรี่  ช่องละ 1 – 2 ฝา  ปิดฝาจุกแล้วเขย่าให้ทั่ว   จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที  ถึง 1 ชั่วโมง
5.  เมื่อได้เวลาที่กำหนด  ก่อนเปิดฝาจุกแบตเตอร์รี่ควรทำการเขย่าให้ทั่วอีกครั้ง   จากนั้นเปิดฝาจุกออกเทน้ำยาล้างห้องน้ำออกให้หมด  สังเกตดูจะมีคราบตะกรันดำๆ ออกมากับน้ำ  หลังจากนั้นให้นำน้ำร้อนเทกรอกใส่ไปในแบตเตอร์รี่ให้ครบทุกๆ ช่อง  เพื่อล้างให้สะอาดสัก 2 – 3 ครั้ง  จากนั้นคว่ำทิ้งไว้ให้แห้งสนิท  น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน ถึงจะแห้งสนิท  แต่ผมรอไม่ได้เพราะไม่มีแบตฯสำรอง   ผมใช้น้ำกรดที่ซื้อมาเผื่อเกินไว้  เติมใส่ลงไปก่อนทุกๆ ช่อง  เพื่อให้น้ำกรดทำการไล่น้ำออก จากนั้นเทออกให้หมด
6.  จากนั้นได้เวลาเติมน้ำกรดที่จะใช้งานจริงลงไป  โดยเติมให้ครบทุกช่องตามระดับที่ระบุของแบตเตอร์รี่  แล้วปิดฝาจุก  แล้วนำไปชาร์จไฟให้เต็ม  ถ้าไม่มีเครื่องชาร์จไฟก็ต้องไปให้ตามร้านชาร์จให้  แต่ในกรณีของผมต่อพ่วงกับรถอีกคันหนึ่งให้ชาร์จไฟ  เลยสะดวกสบาย