วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

การนำรถยนต์ส่วนตัวขับท่องเที่ยวในลาว

-->
การนำรถยนต์ส่วนตัวขับท่องเที่ยวในลาว 
ปัจจุบันประเทศลาวเพื่อนบ้านไทยเรา  ได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างอย่างต่อเนื่อง และเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อสัญจรท่องเที่ยวไปตามสถานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศลาว  เนื่องจากลาวมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก  ขุนเขา ลำน้ำ อุโมงค์ และ เมืองต่างๆที่มีภูมิทัศน์มหัศจรรย์ที่สวยสดงดงามตาที่ธรรมชาติมอบไว้ให้ ตระการไปกับภาพอดีตแห่งความรุ่งเรืองบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาต่างๆของอาณาจักร ล้านช้าง ลาวมีสภาพไม่ต่างไปจากไทยเมื่อสมัย 30 ปีก่อน
แต่การท่องเที่ยวที่ได้อรรถรส  และเกิดการคล่องตัวในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นั้น คงหนีไม่พ้นการนำรถยนต์ส่วนตัวขับท่องเที่ยวในลาว  แต่การนำรถยนต์ส่วนตัวข้ามไปฝั่งลาวนั้น ก็ต้องมีขั้นตอนตามกฎหมายกันหน่อย  เพื่อจะได้ไม่เข้าข่ายการขโมยรถออกนอกประเทศ ลองศึกษาดูเผื่อมีใครอยากจะไปท่องเที่ยวเมืองลาวบ้าง
ขั้นตอนการจัดทำเอกสารเพื่อนำรถออกนอกราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยว
1. พาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วงดังตัวอย่าง) ซึ่งสามารถขอทำได้ที่ แผนกทะเบียนฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด(กรุงเทพ-หน้าสวนจตุจักร) ราคาเล่มละ 50 บาท การต่ออายุจะเป็นแบบปีต่อปี ค่าต่ออายุเล่มละ 25 บาท(หากหมดอายุไปแล้วไม่ต่อก็ได้หรือมาต่อใหม่ภายหลังก็ไม่เสียค่าปรับ) เอกสารประกอบคือสมุดประจำรถตัวจริง ชื่อผู้ขออนุญาตกับผู้ครอบครองต้องเป็นคนๆ เดียวกัน
2. ใบขับขี่แบบใหม่ (บัตรแข็ง Smart Card) ซึ่งสามารถใช้เป็นใบขับขี่ได้ตามปกติ และยังใช้ขับขี่ระหว่างประเทศในอาเซียน 10 ประเทศได้อีกด้วย ขั้นตอนการขอก็ไม่ยาก คุณสามารถนำใบอนุญาตขับขี่เดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไปยื่นความจำนงขอเปลี่ยนเป็นบัตรแบบแข็ง (Smart Card) ได้ที่แผนกใบอนุญาตฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด โดยเสียค่าธรรมเนียมในการขอเปลี่ยนฉบับละ 165 บาท วันหมดอายุสำหรับบัตรใหม่นั้น จะอ้างอิงตามบัตรเก่าที่คุณมีอยู่ หมายความว่าถ้าผู้ใดถือใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพ บัตรใหม่ก็จะเป็นแบบตลอดชีพเช่นเดียวกันหรือถ้าเป็นใบอนุญาตขับขี่แบบ 1 ปี วันหมดอายุของบัตรใหม่ก็จะหมดตามบัตรเก่าของคุณนั่นเอง หลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว จากนั้นไปรอเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปเพื่อติดใบขับขี่ฉบับใหม่ได้เลย
3.ใบขับขี่สากล การทำใบขับขี่สากลนั้นสามารถยื่นเรื่องติดต่อได้ที่กรมการขนส่งทางบกจังหวัดเช่นเดียวกันและใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ก็ได้รับเล่มเรียบร้อย ราคาค่าธรรมเนียม 505 บาท ต่ออายุปีต่อปี เช่นเดียวกับพาสปอร์ตรถ (หากหมดอายุถ้าไม่ต่อก็ไม่เสียค่าปรับเช่นเดียวกัน) ใบขับขี่สากลนี้นอกจากคุณจะใช้ขับรถเก๋ง กระบะ แล้วยังใช้ขับมอเตอร์ไซด์ รถบรรทุกไม่เกิน 6 ล้อ ได้อีกด้วย
                4.ป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศ อันนี้ก็เป็นระเบียบใหม่ที่เพิ่งออกมาเช่นเดียวกับใบขับขี่แบบ Smart  Card เพื่อใช้สำหรับรถที่เดินทางออกจากประเทศเพื่อจะไปยังประเทศ ลาว เวียดนาม กัมพูชา การยื่นขอป้ายทะเบียนระหว่างประเทศนั้นสามารถยื่นเรื่องขอทำได้ที่แผนกทะเบียนฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดได้เช่นเดียวกันกับพาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วง) แต่มีจุดที่แตกต่างกับการทำพาสปอร์ตรถคือ พาสปอร์ตรถคุณสามารถยื่นเรื่องขอได้ที่ขนส่งทุกจังหวัดทั่วประเทศไม่ว่ารถคุณจะขึ้นทะเบียนที่จังหวัดใด แต่ ป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศคุณต้องยื่นเรื่องขอเฉพาะขนส่งที่รถคุณได้ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น ค่าธรรมเนียม 200 บาท รอรับป้ายภายใน 20 วันหลังจากคุณมี พาสปอร์ตรถและใบขับขี่แบบใหม่พร้อมทั้งป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศ  เรียบร้อยแล้วทีนี้คุณก็สามารถขับรถมาเที่ยวที่ลาวได้แล้วครับ

ขั้นตอนการผ่านแดน ไทย-ลาว
อันดับแรกต้องมากรอกเอกสารที่เรียกว่า ใบขนส่งสินค้าพิเศษ (เป็นชื่อแบบฟอร์มของ ตม.) และ ใบรายละเอียดของพาหนะ  ซึ่งขั้นตอนนี้คุณก็กรอกลงไปเกี่ยวกับข้อมูลของคุณ+จำนวนผู้ติดตามในรถ และรายละเอียดของรถที่คุณจะนำออกนอกประเทศ จากนั้นต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะ ด่าน ตม. จะเอาคืนเวลาคุณกลับเข้าประเทศ (ป้องกันการขโมยรถออกนอกประเทศเช่นเดียวกัน) เมื่อเสร็จขั้นตอนต่างๆ แล้วเจ้าหน้าประทับตราขาออกก็เท่ากับว่าขั้นตอนทางฝั่งไทยเรียบร้อย ขั้นตอนดังกล่าวนี้ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น
                จากนั้นเมื่อมาถึงด่าน ตม.ของลาว คุณจะต้องทำเอกสาร 2 ส่วนคือ  ใบติดตามพาหนะเข้าชั่วคราว และทำประกันภัย ซึ่งคุณสามารถกรอกเป็นภาษาไทยได้  ส่วนหัวด้านซ้ายตัดเพื่อติดหน้ากระจกรถของคุณ  รายละเอียดจะคล้ายๆ กับที่ทำฝั่งไทย แต่จะมีให้กรอกข้อมูลสอบถามถึงผู้ค้ำประกัน ตรงนี้คุณก็กรอกชื่อของคุณได้เลย และจะต้องกรอกระยะเวลาในการนำรถเข้ามาด้วยว่ามากี่วัน (ค่าธรรมเนียม แตกต่างกัน) ในตัวอย่างเข้าวันที่ 9/7/2007 ออก 15/7/2007 รวม 7 วัน ซึ่งเอกสารตรงนี้คุณสามารถนำรถขับท่องเที่ยวไปได้ทั่วประเทศลาว
                และไม่จำเป็นต้องกลับออกมาทางด่านเก่าก็ได้ เช่น คุณขับรถเข้าทางด่านหนองคายแล้วขึ้นมาเที่ยวที่หลวงพระบาง จากนั้นขากลับคุณจะกลับทางด่านห้วยทรายเพื่อกลับทางเชียงของก็ได้ (แต่อย่าให้เกินวันที่อนุญาตแล้วกัน ไม่งั้นจะถูกปรับ)
รวมค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
- ฝั่งไทย ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น
- ฝั่งลาว ค่าธรรมเนียมประกันภัยรถ  ราคาแตกต่างกันแล้วแต่จำนวนวันที่เดินทางมา เช่น 7 วัน ประมาณ 60000 กีบ (240 บาทโดยประมาณ)
                - ค่าธรรมเนียม (รถ+คน) ผ่านด่านเข้าเมือง คนละ 200 บาท
- ค่าธรรมเนียมที่ใช้พาสปอร์ตในการเข้าเมืองอีก คนละ 10 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น