การนำรถยนต์ส่วนตัวขับท่องเที่ยวในลาว
ปัจจุบันประเทศลาวเพื่อนบ้านไทยเรา ได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างอย่างต่อเนื่อง
และเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อสัญจรท่องเที่ยวไปตามสถานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศลาว
เนื่องจากลาวมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก ขุนเขา ลำน้ำ อุโมงค์ และ
เมืองต่างๆที่มีภูมิทัศน์มหัศจรรย์ที่สวยสดงดงามตาที่ธรรมชาติมอบไว้ให้
ตระการไปกับภาพอดีตแห่งความรุ่งเรืองบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาต่างๆของอาณาจักร
ล้านช้าง ลาวมีสภาพไม่ต่างไปจากไทยเมื่อสมัย 30 ปีก่อน
แต่การท่องเที่ยวที่ได้อรรถรส และเกิดการคล่องตัวในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
นั้น คงหนีไม่พ้นการนำรถยนต์ส่วนตัวขับท่องเที่ยวในลาว แต่การนำรถยนต์ส่วนตัวข้ามไปฝั่งลาวนั้น ก็ต้องมีขั้นตอนตามกฎหมายกันหน่อย เพื่อจะได้ไม่เข้าข่ายการขโมยรถออกนอกประเทศ
ลองศึกษาดูเผื่อมีใครอยากจะไปท่องเที่ยวเมืองลาวบ้าง
ขั้นตอนการจัดทำเอกสารเพื่อนำรถออกนอกราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยว
1. พาสปอร์ตรถ (เล่มสีม่วงดังตัวอย่าง)
ซึ่งสามารถขอทำได้ที่ แผนกทะเบียนฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด(กรุงเทพ-หน้าสวนจตุจักร) ราคาเล่มละ 50 บาท การต่ออายุจะเป็นแบบปีต่อปี
ค่าต่ออายุเล่มละ 25 บาท(หากหมดอายุไปแล้วไม่ต่อก็ได้หรือมาต่อใหม่ภายหลังก็ไม่เสียค่าปรับ)
เอกสารประกอบคือสมุดประจำรถตัวจริง ชื่อผู้ขออนุญาตกับผู้ครอบครองต้องเป็นคนๆ
เดียวกัน
2. ใบขับขี่แบบใหม่
(บัตรแข็ง Smart
Card) ซึ่งสามารถใช้เป็นใบขับขี่ได้ตามปกติ และยังใช้ขับขี่ระหว่างประเทศในอาเซียน
10 ประเทศได้อีกด้วย ขั้นตอนการขอก็ไม่ยาก
คุณสามารถนำใบอนุญาตขับขี่เดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไปยื่นความจำนงขอเปลี่ยนเป็นบัตรแบบแข็ง
(Smart
Card) ได้ที่แผนกใบอนุญาตฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด
โดยเสียค่าธรรมเนียมในการขอเปลี่ยนฉบับละ 165 บาท
วันหมดอายุสำหรับบัตรใหม่นั้น จะอ้างอิงตามบัตรเก่าที่คุณมีอยู่
หมายความว่าถ้าผู้ใดถือใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีพ
บัตรใหม่ก็จะเป็นแบบตลอดชีพเช่นเดียวกันหรือถ้าเป็นใบอนุญาตขับขี่แบบ 1 ปี วันหมดอายุของบัตรใหม่ก็จะหมดตามบัตรเก่าของคุณนั่นเอง หลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นไปรอเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปเพื่อติดใบขับขี่ฉบับใหม่ได้เลย
3.ใบขับขี่สากล
การทำใบขับขี่สากลนั้นสามารถยื่นเรื่องติดต่อได้ที่กรมการขนส่งทางบกจังหวัดเช่นเดียวกันและใช้เวลาเพียง
2 ชั่วโมง ก็ได้รับเล่มเรียบร้อย ราคาค่าธรรมเนียม 505 บาท ต่ออายุปีต่อปี เช่นเดียวกับพาสปอร์ตรถ (หากหมดอายุถ้าไม่ต่อก็ไม่เสียค่าปรับเช่นเดียวกัน)
ใบขับขี่สากลนี้นอกจากคุณจะใช้ขับรถเก๋ง กระบะ แล้วยังใช้ขับมอเตอร์ไซด์
รถบรรทุกไม่เกิน 6 ล้อ ได้อีกด้วย
4.ป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศ
อันนี้ก็เป็นระเบียบใหม่ที่เพิ่งออกมาเช่นเดียวกับใบขับขี่แบบ Smart Card เพื่อใช้สำหรับรถที่เดินทางออกจากประเทศเพื่อจะไปยังประเทศ
ลาว เวียดนาม กัมพูชา
การยื่นขอป้ายทะเบียนระหว่างประเทศนั้นสามารถยื่นเรื่องขอทำได้ที่แผนกทะเบียนฯ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดได้เช่นเดียวกันกับพาสปอร์ตรถ
(เล่มสีม่วง) แต่มีจุดที่แตกต่างกับการทำพาสปอร์ตรถคือ
พาสปอร์ตรถคุณสามารถยื่นเรื่องขอได้ที่ขนส่งทุกจังหวัดทั่วประเทศไม่ว่ารถคุณจะขึ้นทะเบียนที่จังหวัดใด
แต่
ป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศคุณต้องยื่นเรื่องขอเฉพาะขนส่งที่รถคุณได้ขึ้นทะเบียนไว้เท่านั้น
ค่าธรรมเนียม 200 บาท รอรับป้ายภายใน 20 วันหลังจากคุณมี
พาสปอร์ตรถและใบขับขี่แบบใหม่พร้อมทั้งป้ายทะเบียนรถระหว่างประเทศ
เรียบร้อยแล้วทีนี้คุณก็สามารถขับรถมาเที่ยวที่ลาวได้แล้วครับ
ขั้นตอนการผ่านแดน
ไทย-ลาว
อันดับแรกต้องมากรอกเอกสารที่เรียกว่า
ใบขนส่งสินค้าพิเศษ (เป็นชื่อแบบฟอร์มของ ตม.) และ ใบรายละเอียดของพาหนะ
ซึ่งขั้นตอนนี้คุณก็กรอกลงไปเกี่ยวกับข้อมูลของคุณ+จำนวนผู้ติดตามในรถ
และรายละเอียดของรถที่คุณจะนำออกนอกประเทศ จากนั้นต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะ ด่าน ตม.
จะเอาคืนเวลาคุณกลับเข้าประเทศ (ป้องกันการขโมยรถออกนอกประเทศเช่นเดียวกัน)
เมื่อเสร็จขั้นตอนต่างๆ
แล้วเจ้าหน้าประทับตราขาออกก็เท่ากับว่าขั้นตอนทางฝั่งไทยเรียบร้อย ขั้นตอนดังกล่าวนี้ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ
ทั้งสิ้น
จากนั้นเมื่อมาถึงด่าน
ตม.ของลาว คุณจะต้องทำเอกสาร 2 ส่วนคือ ใบติดตามพาหนะเข้าชั่วคราว และทำประกันภัย
ซึ่งคุณสามารถกรอกเป็นภาษาไทยได้ ส่วนหัวด้านซ้ายตัดเพื่อติดหน้ากระจกรถของคุณ รายละเอียดจะคล้ายๆ กับที่ทำฝั่งไทย
แต่จะมีให้กรอกข้อมูลสอบถามถึงผู้ค้ำประกัน ตรงนี้คุณก็กรอกชื่อของคุณได้เลย
และจะต้องกรอกระยะเวลาในการนำรถเข้ามาด้วยว่ามากี่วัน (ค่าธรรมเนียม แตกต่างกัน)
ในตัวอย่างเข้าวันที่ 9/7/2007 ออก 15/7/2007 รวม 7 วัน
ซึ่งเอกสารตรงนี้คุณสามารถนำรถขับท่องเที่ยวไปได้ทั่วประเทศลาว
และไม่จำเป็นต้องกลับออกมาทางด่านเก่าก็ได้
เช่น คุณขับรถเข้าทางด่านหนองคายแล้วขึ้นมาเที่ยวที่หลวงพระบาง
จากนั้นขากลับคุณจะกลับทางด่านห้วยทรายเพื่อกลับทางเชียงของก็ได้
(แต่อย่าให้เกินวันที่อนุญาตแล้วกัน ไม่งั้นจะถูกปรับ)
รวมค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
- ฝั่งไทย
ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น
- ฝั่งลาว ค่าธรรมเนียมประกันภัยรถ ราคาแตกต่างกันแล้วแต่จำนวนวันที่เดินทางมา เช่น
7 วัน ประมาณ 60000 กีบ (240 บาทโดยประมาณ)
- ค่าธรรมเนียม (รถ+คน) ผ่านด่านเข้าเมือง คนละ 200
บาท
- ค่าธรรมเนียมที่ใช้พาสปอร์ตในการเข้าเมืองอีก
คนละ 10 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น