วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัย

-->
การขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัย
ในเรื่องของการขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัยนั้น มีนักเขียนหลายท่าน ได้เขียนไว้อย่างดีเยี่ยมแล้ว  ผมจึงขออนุญาต  นำบทความมาเผยแพร่ต่อ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย  และขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความมา ณ. ที่นี้
ในการขับรถผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ เว้นแต่กรณีต่อไปนี้ที่ผู้ขับขี่สามารถขับล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถหรือขับเข้าไปในทางเดินรถด้านขวาได้
- ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง หรือถูกปิดการจราจร
- ทางเดินรถนั้นเจ้าพนักงานจราจรกำหนดให้เป็นทางเดินรถทางเดียว
- ทางเดินรถนั้นกว้างไม่ถึง 6 เมตร
ห้ามผู้ขับขี่ขับรถในกรณี
1. ในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ เช่น ภายหลังจากรับประทานยาแก้ไข้หวัด ในขณะง่วงนอน
2. ในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น
3. ในลักษณะกีดขวางการจราจร
4. โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน
5. ในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมดาหรือไม่อาจและเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่ง หรือทั้งสองด้านได้พอแก่ความปลอดภัย
6 .คร่อมหรือทับเส้นหรือแนวแบ่งช่องรถ เว้นแต่เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องเดินรถ เลี้ยวรถ หรือกลับรถ
7. บนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร เว้นแต่รถลากเข็นสำหรับทารก คนป่วย หรือคนพิการ
8. โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
9. ในขณะที่เสพ หรือรับเข้าร่างกาย ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ซึ่งวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทกลุ่มแอมเฟตามีน(ยาบ้า) หรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทอย่างอื่น
10. ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ
11. ขับรถบนไหล่ทาง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร
12. ใช้ไฟฉุกเฉินขณะขับรถตรงไปเพื่อผ่านทางร่วมทางแยก
13. ขับรถแข่ง เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจร
ข้อห้ามของผู้ขับรถ
1. ห้ามอนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ขับรถของตน
2. ห้ามใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถที่จัดทำขึ้นเอง
3. ห้ามให้ผู้อื่นใช้ใบอนุญาตขับรถของตน
4. ห้ามใช้รถที่ยังไม่ได้จดทะเบียน
การขับขี่รถยนต์ลงจากทางลาดชันหรือภูเขา
เมื่อผู้ขับขี่ขับรถลงจากทางลาดชันหรือภูเขาจะต้องปฏิบัติอย่างไร?
- ห้ามใช้เกียร์ว่าง
- ห้ามเหยียบคลัทซ์
- ห้ามใช้เบรคตลอดเวลา
- ห้ามดับเครื่องยนต์
- ใช้เกียร์ต่ำ
- ขับรถชิดขอบทางด้านซ้าย
- ให้เสียงสัญญาณเตือนรถที่อาจสวนทางมา
การขับรถสวนทางกัน
ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติอย่างไร?
1.ให้ผู้ขับขี่ขับรถชิดทางด้านซ้ายของทางเดินรถ และให้ถือกึ่งกลางของทางเดินรถหรือเส้นหรือแนวที่แบ่งทางเดินรถเป็นหลัก
2. ทางเดินรถที่แคบ ให้ผู้ขับขี่แต่ละฝ่าย ลดความเร็วของรถลง เพื่อให้สวนทางกันได้โดยปลอดภัย
3.ทางเดินรถที่แคบ ซึ่งไม่อาจขับรถสวนทางกันได้โดยปลอดภัยให้ผู้ขับขี่รถคันที่ใหญ่กว่าหยุดรถชิดขอบทางด้านซ้าย เพื่อให้ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่าขับผ่านไปก่อน
4. กรณีที่มีสิ่งกีดขวาง ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วหรือหยุดรถให้รถคันที่สวนทางขับผ่านมาก่อน
ขับรถห่างจากรถคันหน้า
ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเป็นระยะทางเท่าใด?
- ห่างพอสมควรในระยะที่สามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
การขับรถผ่านทางร่วมทางแยก
การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่เป็นทางเอกตัดกัน และไม่ปรากฏสัญญาณ หรือเครื่องหมายจราจรผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติอย่างไร?
- ถ้ามีรถอื่นอยู่ในทางร่วมทางแยก ผู้ขับขี่ต้องให้รถในทางร่วมทางแยกนั้นขับผ่านไปก่อน
- ถ้ามาถึงทางร่วมทางแยกพร้อมกัน และไม่มีรถอยู่ในทางร่วมทางแยกผู้ขับขี่ต้องหยุดรถให้รถที่อยู่ทางด้านซ้ายของคนขับผ่านไปก่อน
เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย
เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?
ให้ผู้ขับขี่หยุดให้ทางแก่รถที่กำลังผ่านทางร่วมทางแยกจากทางด้านขวาและให้ทางแก่รถที่เลี้ยวขวาก่อนจึงจะเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้
การเลี้ยวรถ
ในการเลี้ยวรถผู้ขับขี่จะต้องขับรถในช่องทางเดินรถที่ต้องการจะเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่ากี่เมตร?
- ตอบ 30 เมตร
ผู้ขับขี่พบรถฉุกเฉิน
เมื่อขับขี่พบรถฉุกเฉินจะต้องปฏิบัติอย่างไร?
1.หยุดรถ หรือจอดรถให้อยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย แต้ถ้ามีช่องทางเดินรถประจำรถทางให้หยุดชิดกับช่องทางเดินรถประจำทาง แต่ห้ามหยุดหรือจอดรถในทางร่วมทางแยก
2.ขับรถตามหลังรถฉุกเฉินได้ในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร
ขอขอบคุณ ด.ต.สุพจน์ น้อยจีน ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สภ.เคียนซา

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ Suzuki Swift New

-->

ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ Suzuki Swift New
ค่ายรถยนต์ซูซูกิ ได้เปิดตัว Suzuki Swift Newเกียร์ออโต CVT  ในแบบฉบับรถอีโคคาร์ เมื่อช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา นับว่าได้รับการตอบรับอย่างสูงจนถึงปัจจุบันยังมียอดค้างส่งกว่า 1.7 หมื่นคัน  แต่ทางผู้บริหารของซูซูกิยืนยันจัดการได้ทันในสิ้นปีนี้แน่ พร้อมงัดกลยุทธ์เสนอรุ่นเกียร์ธรรมดามอบให้ลูกค้า กรณีที่จองเกียร์ออโต แต่ได้รถช้า พร้อมส่งมอบให้ทันทีก่อน 600 คัน โดยให้เซลของแต่ละดีลเลอร์เป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง
ล่าสุด ค่าย ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้เข็น ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เกียร์ธรรมดาออกมาต่อยอดความสำเร็จของรุ่นเกียร์ออโต เพื่อเอาใจนักเลงรถที่ชื่นชอบการเชนจ์เกียร์ สำหรับ ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เกียร์ธรรมดา ยังคงรูปลักษณ์เฟี้ยวฟ้าวเร้าใจในทุกมุมมองทั้งภายนอกและห้องโดยสารภายในเฉกเช่นเดียวกับสวิฟท์ ใหม่ รุ่นเกียร์ออโต CVT
ข้อมูล ซูซูกิ สวิฟท์ เกียร์ธรรมดา
เพียงแต่แตกต่างกันที่รุ่นนี้จะเป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เครื่องยนต์ตัวเดียวกันคือขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว รีดขุมพลัง 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันทั้งไอดีและไอเสีย ประหยัดน้ำมันกว่า 20 กม./ลิตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สมรรถนะการขับขี่ยังคงเน้นการให้ความสนุกตื่นเต้น คล่องตัวเต็มสมรรถนะ ฐานล้อกว้างทรงตัวดีเยี่ยม ช่วงล่างเกาะถนนเป็นเยี่ยม ระบบความปลอดภัยมาเพียบ พร้อมถุงลมนิรภัย SRS Airbag และเสริมด้วย Keyless Start & Keyless Push Entryสนนราคา ซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ เกียร์ธรรมดา รุ่น GL 467,000 บาท และรุ่น GA 429,000 บาท ตั้งเป้าขายรุ่นเกียร์ธรรมดาถึงสิ้นปี 2,000 คัน หนุน ส่งให้ยอดขายสวิฟท์โดยรวมในปีนี้จะทะลัก 17,000 คัน
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถบริการนักเลงรถโดนใจยิ่งขึ้น ค่ายซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ยังได้เร่งผุดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการกระหึ่มทั่วประเทศภายในปีนี้เป็น 70 แห่ง
All New Suzuki Swift เร้าทุกประสาทสัมผัสของคุณ ด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งคัน แต่ยังคงเอกลักษณ์ของซูซูกิ สวิฟท์ ตั้งแต่แรกเห็น โดดเด่นด้วยสมรรถนะที่เพิ่มความปลอดภัย มั่นใจทุกการขับขี่ พร้อมความคล่องตัว ประหยัดน้ำมัน และรักษ์สิ่งแวดล้อม เร้าทุกไลฟ์สไตล์ All New Suzuki Swift อีกขั้นของดีไซน์คอมแพ็คคาร์ที่เหมาะกับยุคสมัย ด้วยการผสานสมรรถนะในการขับขี่และการออกแบบ ให้คุณขับมันคล่องตัว อย่างมั่นใจ และปลอดภัยทั้งทางใกล้ทางไกล รวมถึงการประหยัดน้ำมัน (20 กม./ลิตร)* พร้อมประสิทธิภาพในการรักษาสิ่งแวดล้อม  ทุกด้านของการใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์
ข้อมูลทางเทคนิค
มิติ (ยาว/กว้าง/สูง)    3,850/1,695/1,510 มม.
เครื่องยนต์          เบนซิน K12B 16 วาล์ว      
ความจุกระบอกสูบ    1,242 ซีซี   
กำลังสูงสุด    91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด    118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที
เกียร์    ธรรมดา 5 สปีด 
ระบบขับเคลื่อน      ล้อหน้า
ราคา     467,000 บาท
จาก เดลินิวส์ ออนไลน์

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนชีวิตให้เป็นแชมป์

-->

โตโยต้าแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่น
ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์”...เกาะถนนหนึบ เรื่องประหยัดน้ำมัน จิ๊บจิ๊บ
และ ฟอร์จูนเนอร์”...วิถีใหม่แห่งพลังขับเคลื่อน

          หลังจากที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยม โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์และ "ฟอร์จูนเนอร์เมื่อเดือนกรกฎาคม  ปีที่ผ่านมา ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ที่สมาร์ททันสมัย สะท้อนภาพลักษณ์อันโดดเด่น พร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วทุกภูมิภาค
         ล่าสุดได้รับการพัฒนาอีกขั้นเพื่อความสมบูรณ์แบบทั้งด้านประสิทธิภาพเครื่อง ยนต์ที่มีการเผาไหม้ดียิ่งขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และระบบช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION) ที่ให้สมรรถนะการทรงตัว อัตราเร่ง และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันดียิ่งขึ้น เพิ่มความมั่นใจ ปลอดภัยในทุกการเดินทาง
ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์....เทคโนโลยีที่เปลี่ยนชีวิตให้เป็นแชมป์
     เพิ่ม 6 รุ่นใหม่....มุ่งหน้าสู่จุดหมายอย่างแชมป์
    รุ่นมาตรฐาน        - ขับเคลื่อน 2 ล้อ    2.5J (VNT)
    รุ่นสมาร์ท แค็บ    - ขับเคลื่อน 2 ล้อ    2.5G (VNT)
                - พรีรันเนอร์        2.5E ABS (NAVI)
    รุ่นดับเบิ้ลแค็บ        - พรีรันเนอร์        2.5E ABS (NAVI)
                - พรีรันเนอร์        2.5E ABS 5A/T
                - พรีรันเนอร์        2.5E ABS 5A/T (NAVI)

     ใหม่...สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
    ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด... แรงเต็มสมรรถนะ ตอบสนองได้อย่างใจ ด้วยอัตราทดเกียร์ที่    ต่อเนื่อง พร้อมลดเสียงรบกวน ขับขี่นุ่มนวลทุกเส้นทาง ผสานกับประสิทธิภาพของเครื่องยนต์    อัจฉริยะไดมอนด์เทค แรงเต็มพลัง ประหยัดน้ำมันเต็มสมรรถนะ
   
1KD-FTV (VNT)   
            ความจุกระบอกสูบ        2,982 ซีซี
            แรงม้าสูงสุด            126 กิโลวัตต์ (171 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบต่อนาที
            แรงบิดสูงสุด            360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,4003,200 รอบต่อนาที

2KD-FTV (VNT)
            ความจุกระบอกสูบ        2,494 ซีซี
            แรงม้าสูงสุด            106 กิโลวัตต์ (144 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบต่อนาที
            แรงบิดสูงสุด            343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,6002,800 รอบต่อนาที

     ใหม่...ระบบช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION)…เทคโนโลยีที่ออกแบบเฉพาะเพื่อการทรงตัวเหนือชั้น
    ระบบเบรกแบบมัลติเพล็กซ์ ผสานการทำงานของระบบเบรก เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง     อย่างเป็นเอกภาพ เพื่อการทรงตัวที่มั่นคง ง่ายต่อการควบคุมรถ
    ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ เกาะหนึบ ขับนุ่ม ทุกองศาการเลี้ยว
    แผ่นรองพิเศษใต้เครื่องยนต์ ให้การไหลผ่านอากาศที่ดี เสริมการทรงตัวของรถที่ดียิ่งขึ้น
    แชสซีส์แบบโครงสร้างเหล็กชิ้นเดียวตลอดคัน เข้าโค้งไม่หวั่นแม้บรรทุกหนัก

     ภายในใหม่....เปลี่ยนทุกความท้าทายให้เป็นเรื่องง่าย และสบายระดับแชมป์
    ระบบนำทางพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ Eco Navi และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย         (Bluetooth)*…สู่จุดหมายอย่างแม่นยำ พร้อมประมวลผลพฤติกรรมการขับขี่แบบ Real Time
    ทุกครั้งที่ขับท้าทายให้ประหยัดยิ่งขึ้น และปลอดภัยยิ่งกว่าเมื่อต้องใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่
    เครื่องเสียงแบบ 2 DIN DVD 1 แผ่น พร้อมจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว และลำโพง
    6 ตำแหน่ง*...เต็มรูปแบบความบันเทิงตลอดการเดินทาง
    จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID: Multi Information Display)*…แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์
    ต่อการขับขี่ อาทิ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะขับขี่ ความเร็วของรถโดยเฉลี่ย ฯลฯ
    พวงมาลัย 4 ก้านแบบปรับระดับได้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ปุ่มรับ-วาง                สายโทรศัพท์ และปุ่มเลือกข้อมูลผลการขับขี่ (MID)*…สะดวกเพียงปลายนิ้วสัมผัส
    มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron*…สบายตา ง่ายต่อการอ่านค่าต่างๆ บนมาตรวัด
    หมอนรองศีรษะเบาะนั่งด้านหลัง 3 ตำแหน่ง*...สบายทุกการเดินทาง
    กล้องมองหลัง*....เพื่อความปลอดภัย สะดวกยิ่งขึ้น

     6 เฉดสียอดนิยม...พร้อมให้เลือกเป็นเจ้าของ

    Super White II
    Silver Metallic
    Dark Steel Mica
    Silky Gold Mica Metallic
    Dark Grey Mica Metallic
    Black Mica

      ราคา    507,000999,000 บาท (ราคารวมภาษีและเครื่องปรับอากาศ)

ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่…..วิถีใหม่แห่งพลังขับเคลื่อน

     เพิ่ม 1 รุ่นใหม่....เพื่อความแตกต่างที่เหนือกว่า
    รุ่นเครื่องดีเซลขับเคลื่อน 2 ล้อ     2.5G 5AT

     ใหม่...สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเกียร์อัตโนมัติ
    ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด...ส่งกำลังแรงต่อเนื่อง นุ่มนวลเหนือชั้นทุกจังหวะเปลี่ยนเกียร์
ผสานกับเครื่องยนต์ไดมอนด์เทค ส่งผลให้มีแรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้น ตอบสนองเร้าใจทุกสภาวะการขับขี่   
    1KD-FTV (VNT)   
            ความจุกระบอกสูบ        2,982 ซีซี
            แรงม้าสูงสุด            126 กิโลวัตต์ (171 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบต่อนาที
            แรงบิดสูงสุด            360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,4003,200 รอบต่อนาที
    2KD-FTV (VNT)
            ความจุกระบอกสูบ        2,494 ซีซี
            แรงม้าสูงสุด            106 กิโลวัตต์ (144 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบต่อนาที
            แรงบิดสูงสุด            343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,6002,800 รอบต่อนาที

     ภายนอก...สะท้อนภาพลักษณ์ที่เหนือกว่า
    แร็คหลังคา*...เสริมภาพลักษณ์ และประโยชน์ใช้สอยที่เหนือกว่า

     ภายใน...สะดวกสบาย หรูหรา
    เทคโนโลยีอัจฉริยะ Eco Navi*…ประมวลผลพฤติกรรมการขับขี่แบบ Real Time
    ทุกครั้งที่ขับ ท้าทายให้ประหยัดยิ่งขึ้น
    ระบบนำทางพร้อมเครื่องเล่น DVD และจอแสดงผล LCD แบบสัมผัส
    ขนาด 6.1 นิ้ว*ง่ายดายทุกที่หมาย พร้อมสัมผัสความบันเทิงครบครันในหนึ่งเดียว

     7 สี*...พร้อมให้คุณได้ครอบครอง

    White Pearl
    Super White II
    Silky Gold Mica Metallic
    Silver Metallic
    Dark Steel Mica
    Black Mica
    Dark Grey Mica Metallic

     ราคา 1,085,0001,449,000 บาท (ราคารวมภาษีและเครื่องปรับอากาศ)

พบกับไฮลักซ์วีโก้ แชมป์ และ ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่
1719 สิงหาคม นี้
ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 346 แห่ง ทั่วประเทศ
แหล่งที่มา และขอขอบคุณภาพสวยๆ     TOYOTA  THAILAND

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ฮอนด้า บริโอ้ 2012 Honda Brio 2012

-->

ฮอนด้า บริโอ้ 2012  Honda Brio 2012
ต้องยอมรับว่าค่ายฮอนด้า Honda  ได้ออกรถ Honda Brio มาอย่างได้ใจและโดนใจคนรุ่นใหม่และ ผู้หญิงเป็นพิเศษ  ทั้งขนาดสมรรถนะ  ความประหยัด  ระบบเซฟตี้  ราคาย่อมเยาว์  รวมถึงดีไซน์ตัวรถได้อย่างเตะตาต้องใจ ลองไปดูรายละเอียดต่างๆ ที่ทาง Honda ได้จัดเต็ม
Honda Brio ครั้งแรกที่ความสุขจะผสานกับความลงตัว ตอบรับทุกความต้องการของคุณ ตอบสนองความประหยัดที่ตรงใจ พร้อมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยในทุกเส้นทาง ฮอนด้า บริโอ นวัตกรรมยานยนต์ขนาดเล็ก ที่เป็นคำตอบของคุณด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 1.2 ลิตร 90 แรงม้า ประหยัดน้ำมันถึง 20 กม./ ลิตร ให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจ พร้อมห่วงใยธรรมชาติ ด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัม / กม. ตามมาตรฐานมลพิษไอเสียระดับ Euro 4 อีกทั้งให้คุณอุ่นใจกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลของโครงสร้างตัวถังนิรภัยที่แข็งแกร่ง อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบครัน และนี่คือ นวัตกรรมความสุขอันลงตัว  ที่ฮอนด้าได้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อทุกคน
คุณสมบัติรถยนต์ประหยัดพลังงาน
1. ด้านการประหยัดพลังงาน มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ไม่เกิน 5 ลิตร / 100 กม. หรือ 20 กม. / ลิตร ทดสอบตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg. 101 (00)
2. ด้านสิ่งแวดล้อมผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ Euro 4 ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg.83 (05) มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกจากท่อไอเสียไม่เกิน 120 กรัม / กม. ทดสอบตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE Reg. 101 (00)
3. ด้านความปลอดภัย มีคุณสมบัติในการป้องกันผู้โดยสารจากการชนด้านหน้าและด้านข้างของตัวรถ ตามมาตรฐาน UNECE Reg. 94 (01) และ UNECE Reg. 95 (02)
ทุกมุมมอง ตอบรับทุกอารมณ์
ออกแบบชีวิตที่ลงตัวด้วยดีไซน์สวย ล้ำสมัย เส้นสายโฉบเฉี่ยวจากหน้าจรดท้าย โดดเด่นด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่แบบฮาโลเจน ส่องสว่างชัดเจนพร้อมไฟเลี้ยวในตัว และไฟท้ายที่ปราดเปรียว สะดุดตา พร้อมสะกดทุกสายตาตลอดการเดินทาง
- ไฟหน้าแบบฮาโลเจน
- กระจังหน้าโครเมียม
- ไฟท้ายดีไซน์ล้ำสมัย
- สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ทุกสัมผัส ตอบรับทุกการใช้งาน
เติมความสุขให้ลงตัวด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงทุกสรีระของผู้โดยสาร ภายในกว้างขวาง เพื่อให้รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ใช้วัสดุคุณภาพผสานดีไซน์ทันสมัยสีทูโทน เสริมความโดดเด่นด้วยโครเมียม และแผงควบคุมด้านหน้าสวยงามลงตัวกับการใช้งาน พร้อมมาตรวัดแบบสปอร์ต เพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่ ด้วยระบบเครื่องเสียงแบบ 2 DIN และช่องเชื่อมต่อ USB ให้คุณเติมเต็มความสุขในทุกเส้นทาง
- มาตรวัดดีไซน์สปอร์ต พร้อมมาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
- เครื่องเสียงแบบ 2 DIN และช่อง AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
- ช่องเชื่อมต่อ USB
- เบาะคู่หน้าดีไซน์สปอร์ต โอบกระชับกับสรีระ
อุ่นใจกับเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสากล
ฮอนด้า บริโอ้ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อปกป้องผู้ขับและผู้โดยสาร โดยผ่านการทดสอบการชนที่ศูนย์ทดสอบการชนในร่มของฮอนด้า (Real World Crash Test Facility) พร้อมมอบความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานสากล ทั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety) เช่น ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Active Safety) เช่น โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON, ถุงลมคู่หน้า, เข็มขันิรภัย พร้อมปกป้องให้คุณปลอดภัยในทุกเส้นทาง
- ถุงลมอัจฉริยะด้านคนขับแบบ i-SRS และผู้โดยสารด้านหน้าแบบ SRS ช่วยปกป้องและลดอาการบาดเจ็บของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบสัญญาณกันขโมย
- ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Seatbelts)จะดึงสายเข็มขัดให้ตึง ขณะที่ระบบผ่อนแรง (Load Limiter) จะช่วยป้องกันและลดแรงกดบริเวณหน้าอก เพื่อลดอาการบาดเจ็บ
มีทั้งหมด 3 รุ่น S MT , V MT , V AT
พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า เบรกเอบีเอส ถุงลมคู่หน้า สปอยเลอร์หลัง เบาะหลังพับได้เหมือนแจ๊ส เกียร์CVT เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
- รุ่น S MT : เกียร์ธรรมดา กระจกมองข้าง และมือจับประตูสีดำ ล้อกระทะ+ฝาครอบขอบ14 กระจกไฟฟ้าคู่หน้า กระจกมองข้างปรับมือ กุญแจอิมโม แต่โนกันขโมย และเซ็นทรัลล็อค
- รุ่น V MT : เกียร์ธรรมดา กระจกมองข้าง และมือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ ล้อแม็กขอบ14 กระจกไฟฟ้า4บาน กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า กุญแจอิมโม+กันขโมย และเซ็นทรัลล็อค
- รุ่น V AT : เหมือน MT แต่เป็นเกียร์ ออโต้
แหล่งที่มา : HONDA THAILAND

วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รถซีดานยอดเยี่ยมคือคันไหน What is the best sedan car

-->
รถซีดานยอดเยี่ยมคือคันไหน? (What is the best sedan car? )
รถซีดานยอดเยี่ยมคือคันไหน?  ความสบายในการโดยสาร ความมั่นใจในการขับขี่ และการตอบสนองที่คุ้มค่าในการใช้งาน  คงเป็นคำถามจากหลายๆ ท่าน  เพราะตลาดรถยอดนิยมของคนไทยเริ่มสนุกอีกครั้ง  เพราะมีผู้เข้าแข่งขันแบบครบค่าย ตั้งแต่ TOYOTA,  HONDA,  CHEVROLET,  MAZDA,  MITSUBISHI,  FORD,  HYUNDAI  เพียงแต่ใครจะมีของใหม่ลงสนามบ้าง  ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการเปิดตัวของแต่ละค่าย ทำให้ไม่พร้อมที่จะลงสนามแข่งขัน  ดังนั้นสนามแข่งรถซีดานยอดนิยม จึงมีเพียงสามค่าย HONDA  CIVIC,  HYUNDAI  ELANTRA,  MAZDA 3 เท่านั้น
เริ่มจาก HONDA ที่เป็นผู้นำตลาด  กลับมาทวงส่วนแบ่งยอดขาย  แต่ต้องมาเจอคู่แข่งในตลาดที่มีความพร้อม และต้องการรักษายอดขายไว้เช่นกัน จึงเป็นงานหนักของ CIVIC  ที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ วันที่ 10 พฤษภาคม บริษัท ออนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Honda เปิดตัวรถยนต์คอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่ New Honda civic ที่ พารากอน ฮอลล์ สยาม โดยเป็นการแนะนำรถยนต์คอมแพ็คคาร์ โฉมใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้มีการปรับโฉมเผยโฉมไปก่อนหน้านี้งานมอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “Honda Civic ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เคียงคู่กับธุรกิจ Honda ทั่วโลกมายาวนานกว่า 40 ปี และเป็นนวัตกรรมยานยนต์รุ่นแรกๆ ที่ Honda นำสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 1972 จนถึงปี 2011 โดยยอดจำหน่ายรวมทั่วโลกของ Honda Civic สูงกว่า 20,700,000 คัน
Honda Civic โฉมใหม่นี้เป็นซีวิคเจนเนอเรชั่นที่ 9 ซึ่งได้รวบรวมความโดดเด่นของทุกเจนเนอเรชั่น มาต่อยอดการพัฒนาให้ล้ำสไตล์ด้านดีไซน์ ทั้งภายในและภายนอก ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ให้ความสนุกในการขับขี่ จนถึงประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากจุดเด่นในหลายๆ มิตินี้ ทำให้ Honda Civic โฉมใหม่ สามารถก้าวขึ้นสู่ความเป็นรถคอมแพ็คซีดาน ที่ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งในทุกตลาดที่มีการเปิดตัวไปแล้ว
สำหรับ Honda Civic โฉมใหม่ Honda แนะนำเครื่องยนต์ 2 รุ่นเช่นเคย คือ เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้า โดยมาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีขาวฟรอสตี้ (เมทัลลิก) และสีน้ำตาลเออร์เบินไทเทเนียม (เมทัลลิก) ซึ่งเป็น 2 สีใหม่ นอกจากนี้ ยังมีสีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโพลิชเมทัล (เมทัลลิก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า สำหรับสีภายในห้องโดยสาร รุ่น 1.8L จะเป็นสีเบจ และรุ่น 2.0L เป็นสีดำ
New Hyundai Elantra
Hyundai Elantra  เป็นรถนำเข้าทั้งคันจากค่ายรถยนต์เกาหลี รูปลักษณ์สวยงาม และจัดแจงเตรียมลงสนามด้วยราชาคอมแพ็คคาร์ที่มีรางวัล American Car Of The Year 2012  การันตีในความเหมือนที่แตกต่าง และวันนี้มันมาถึงเมืองไทยแล้ว และมีสไตล์เป็นของตนเอง ซึ่งอาจจะโดนใจหรือไม่โดนใจใครก็ได้  ด้วยเทคโนโลยีรถรุ่นนี้มีให้อย่างมากมาย  ในราคาที่น่าสนใจไม่แพงเกินไปสำหรับการเป็นรถนำเข้า  แม้ว่าจะมีขุมพลังเพียง 1.8 ลิตรก็ตาม
                "ปลุกหัวใจความรู้สึกร้อนแรง" หรือ  Put Your Senses in Fire" เป็นวลีที่ค่ายรถยนต์  Hyundai  ใช้ในการสื่อสารถึงคอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่  Hyundai  Elantra  ที่เพิ่งเปิดตัวมาลุยตลาดล่าสุด โดยรถรุ่นนี้ ถือเป็นหนึ่งในความตั้งใจของ  Hyundai ที่ต้องการรุกคืบในตลาดไทย
                เรือนร่างปลุกเร้าด้วยขนาดยาว 4,530 ม.ม. กว้าง 1,775 ม.ม. และสูง 1,445 ม.ม. เป็นขนาดที่ทำให้ Hyundai Elantra มีความโดดเด่น ที่มาพร้อมระยะฐานล้อยาว 2,700 ม.ม. ให้การออกแบบที่ลงตัวกับเส้นสายที่พริ้วไหวภายใต้ปรัชญา Fluidic Sculpture  ที่ใช้การขัดเกลาประหนึ่งเส้นสายที่มาจากลม ทำให้  Hyundai Elantra  มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยค่าสัมประสิทธิ์เสียดทานอากาศที่ต่ำสุดในคลาส ถึง 0.28 cd  ช่วยให้ทั้งความประหยัด แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมความสวยงามที่พริ้วไหวตลอดรอบคัน ตั้งแต่กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สะท้อนบุคลิกรถยนต์แห่งอนาคต มีความหรูหราอย่างลงตัว กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ถูกออกแบบมาให้เน้นความโฉบเฉี่ยวลู่ลมแบบสปอร์ตอย่างแท้จริง และยังต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตลอดรอบคัน ให้มนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหลยิ่งขึ้น และยังวิศวกรรมรถคันนี้ให้มีน้ำหนักที่เบาลง ด้วยพิกัดสูงสุดเพียง  1,230 ก.ก. เท่านั้น
Mazda3
เปิดตัวกันไปแล้วเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2012 ที่ผ่านมา สำหรับ All New Mazda 3 1.6 ลิตรใหม่ (เปิดตัวพร้อมกันกับ Mazda 2 Minorchange) มารอบนี้พร้อมคอนเซ็ปต์ Make Your Mark ปฏิเสธทุกความธรรมดา ในราคาเริ่มต้นที่ 755,000 บาท รูปลักษณ์ ยังโดนใจ แต่ที่หลายคนหวังไว้ว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ Skyactiv ใหม่ ก็คงต้องทำใจรอไปก่อน เพราะรอบนี้ยังเป็นเครื่อง 1.6 ตัวเดิม
มาสด้า3 ใหม่ สุดร้อนแรง โดดเด่นยิ่งขึ้นกับโฉมใหม่เพิ่มสไตล์รอบคัน ปลุกอารมณ์สปอร์ตให้เร้าใจยิ่งขึ้นภายใต้แนวคิดการออกแบบยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ตของมาสด้า ตั้งแต่หน้าจรดท้าย ด้วยกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาสด้า ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์และไฟตัดหมอกสุดโฉบเฉี่ยว รวมไปถึงเส้นสายตัวถังรอบคันที่ลงตัวกลมกลืนกับกันชนหน้า-หลัง ส่งดีกรีความสปอร์ตร้อนแรงด้วยชุดสเกิร์ตรอบคันและสปอร์ตสปอยเลอร์หลัง ให้ทุกการขับขี่ได้โลดแล่นไปบนเส้นทางสายสปอร์ตอย่างเหนือชั้น
ชุดแต่งสปอร์ตรอบคันดีไซน์ใหม่ สเกิร์ตหน้า-ข้าง และหลัง (แต่ละรุ่นมีดีไซน์สปอร์ตเฉพาะตัว)กระจังหน้า 5 เหลี่ยม กระจังหน้าทรงสปอร์ตเอกลักษณ์เฉพาะของมาสด้า พร้อมกันชนหน้าสไตล์สปอร์ตไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (Projector Head Lamp) และไฟตัดหมอกพร้อมกรอบทรงสปอร์ตใหม่ ให้ทัศนวิสัยที่ดี ที่มั่นใจขึ้นในการขับขี่ยามค่ำคืน และส่งดีกรีความสปอร์ตขึ้นอีกระดับไฟท้าย LED แบบเลนส์ใส
รูปลักษณ์ภายใน
มาตรวัดเรืองแสงในดีไซน์แบบทริปเปิ้ลริงส์ ตามแบบรถสปอร์ตเลื่องชื่อของมาสด้าปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัยใช้งานสะดวก โดยไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่ แผงคอนโซลใหม่ เรียบหรูหรา ด้วยวัสดุPiano Blackที่นิยมในรถยุโรปหรู พร้อมชุดเครื่องเสียงวิทยุ CD/MP3 6 แผ่น และลำโพงรอบทิศทาง มือจับเปิดประตูด้านในโครเมี่ยม และแผงควบคุมสวิตช์ เปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าตกแต่งด้วยวัสดุหรูแบบ Piano Black สะดวกปลอดภัยกับกุญแจอัจฉริยะใหม่ Smart Key Card เปิด-ปิดรถ และสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ หลังคาซันรูฟควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มอารมณ์สปอร์ตหรูขึ้นอีกระดับ            
สมรรถนะและความปลอดภัย
เกียร์อัตโนมัติ Activematic พร้อม Manual Mode ปรับสู่โหมดการขับขี่แบบเกียร์ธรรมดาเพื่อความเร้าใจอีกรูปแบบหนึ่ง เครื่องยนต์ MZR 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) พร้อมระบบวาล์วแปรผัน S-VT (Sequential Value Timing) แบบ 2000 ซีซี และ 1600 ซีซี และระบบคันเร่งอัจฉริยะ Drive-By-Wire ที่ตอบสนองได้อย่างทันใจ
โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ TRIPLE-H บนมาตรฐานเทคโนโลยี MAIDAS เอกสิทธิ์เฉพาะของมาสด้า ปกป้องห้องโดยสารและลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ระบบช่วงล่างอิสระทั้ง 4 ล้อ เกาะถนนเป็นเลิศในทุกรูปแบบการขับขี่ ถุงลมนิรภัย 6 จุด พร้อมม่านนิรภัย เพื่อการปกป้องในระดับสูงสุด Mazda3 สมรรถนะและความปลอดภัย
Mazda 3 ใหม่ คือ ความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมยานยนต์ที่ลงตัว และรถยนต์ในรูปแบบสปอร์ตคอมแพ็คคาร์ตามแบบฉบับมาสด้า เป็นรถยนต์นั่งสปอร์ตที่ให้ความสนุกในการขับขี่และให้ความเพลิดเพลินทุกรูปแบบการใช้งาน พาคุณขับเคลื่อนไปบนเส้นทางสาย Zoom-Zoom ด้วยสุดยอดขุมพลัง MZR พร้อมระบบส่งกำลังและระบบช่วงล่างอันเลื่องชื่อของมาสด้ารวมไปถึงมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุดที่พร้อมจะนำคุณเข้าสู่ความสุนทรีย์แห่งโลกของความเร็วและ การขับขี่สไตล์รถสปอร์ตอย่างแท้จริง
                แตกต่างกันไปตามสไตล์ของรถแต่ละคัน  ซึ่งส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน แต่ที่โดดเด่นเห็นจะเป็น Civic  ในเรื่องของเทคโนโลยีสามารถใช้แก๊สโซฮอล์ E 85 ได้ ส่วนความสบายนั้นต้องยกให้ Mazda 3 ระบบ Smart Keyless Entry ส่วนเรื่องการขับขี่คงต้องมองไปที่ Hyundai  Elantra  ระบบเกียร์อัตโนมัติ  6 Speed  ส่วนเรื่องอื่นคงตัดสินใจเองว่าจะโดนใจแบบไหน