การดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น
ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย
ถึงแม้ค่าจ้างแรงงานจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
แต่นั่นหมายถึงว่าค่าครองชีพก็สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ข้าวของมีราคาแพงขึ้น
ค่าน้ำค่าไฟฟ้าที่มองดูเหมือนถูกลงแต่ที่จริงไม่ได้ถูกลงอย่างที่คิด
ไหนจะค่าน้ำมันรถในการเดินทางไปทำงานหรือทำธุระต่างๆ ไหนยังจะมีค่าบำรุงรักษารถยนต์อีกจิปาถะ
ทุกคนจึงต้องมองหาวิธีที่จะประหยัดเงินค่าใช้จ่าย การดูแลรักษารถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้รถของผู้ที่มีรถ
ไม่ใช่ว่ามีรถอยู่คัน มีกุญแจอยู่ดอก มีหน้าที่ขับก็ขับอย่างเดียว ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี
ขับมาเป็นปีแล้วยังไม่รู้เลยว่า ลมยางอ่อน
หม้อน้ำแห้ง ระดับน้ำมันเบรกต่ำ บทความนี้ผมจะแนะนำวิธี การดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น
เพื่อช่วยผู้ที่มีรถยนต์และต้องการลดค่าใช้จ่ายการดูแลรักษารถสุดที่รักของตัวเองให้อยู่กับเราไปได้นานที่สุด
การดูแลรักษาเครื่องยนต์
1.
กระปุกน้ำมันเบรก 6. สายพาน
2.
กรองอากาศ 7. ฝาปิดหม้อน้ำ
3.
ก้านวัดน้ำมันเครื่อง 8. ถังพักน้ำสำรอง
4.
กระปุกน้ำฉีดกระจก 9. แบตเตอรี่
5.
กระปุกน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ 10.
ก้านวัดน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
น้ำมันเบรก/น้ำมันคลัทช์
-
ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัทช์ในกระปุกอย่างน้อยเดือนละครั้ง
-
ระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัทช์ ควรอยู่ระหว่างขีดบน(MAX)
และขีดล่าง(MIN)
-
ถ้าระดับน้ำมันเบรกและน้ำมันคลัทช์ต่ำกว่า(MIN)
แสดงว่าผ้าเบรกสึกหรอจากการใช้งาน หรือระบบเบรกอาจรั่วซึม
ระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
-
ควรตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ในกระปุกอย่างน้อยเดือนละครั้ง
-
ระดับน้ำมันพวงมาลัยควรอยู่ระหว่างขีดบน(UPPER)
และขีดล่าง(LOWER)
-
น้ำมันพวงมาลัยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน
-
หากสีของน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์เปลี่ยน หรือมีน้ำปะปนควรเปลี่ยน
ระดับน้ำฉีดกระจกหน้า
-
ควรตรวจสอบระดับน้ำฉีดกระจกอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือก่อนเข้าฤดูฝน
และก่อนเดินทางไกล
-
ไม่ควรใช้สารละลายอื่นเติม เช่น ผงซักฟอก
อาจทำให้สีรถยนต์เสียหายได้
ระดับน้ำมันเครื่องยนต์
-
ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องยนต์อย่างน้อยเดือนละครั้ง
หรือทุกครั้งที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิง และก่อนเดินทางไกล
-
ระดับน้ำมันบนก้านวัด ควรอยู่ระหว่างขีดบน และขีดล่าง
-
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 10,000 กม. หรือ 6 เดือน หรืออย่างใดอย่างหนึ่งมาถึงก่อน
ระดับน้ำยาหล่อเย็น
-
ควรตรวจสอบระดับน้ำยาหล่อเย็นในหม้อพักอย่างน้อยเดือนละครั้ง
-
หากระดับน้ำยาหล่อเย็นต่ำกว่าขีดล่าง(MIN) ควรเติมให้อยู่ในระดับสูงสุด(MAX)
-
ไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำในขณะเครื่องยนต์ร้อน
จะทำให้น้ำหล่อเย็นพุ่งออกมา และให้ได้รับอันตราย
ระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่
-
แบตเตอรี่ Maintenance Free รับประกัน 1 ปี ไม่เกิน 50.000
กม.
-
ควรตรวจระดับน้ำกลั่นทุกๆ 6 เดือน
-
หากระดับน้ำกลั่นลดลง ควรใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์เติมเท่านั้น
-
หากเติมน้ำกลั่นล้นโดนตัวรถยนต์
หรือโดนร่างกายควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที
การตรวจสภาพสายพานต่างๆ
-
สายพานแอร์
-
สายพานเพาเวอร์
-
สายพานไดชาร์ท
-
ควรตรวจสอบความตึง รอยแตก เสียง และสภาพสมบูรณ์หรือไม่
การตรวจสอบยางรถยนต์
-
ควรตรวจเช็คลมยาง
และปรับแต่งให้ถูกต้องตามอัตราที่กำหนด ในหนังสือคู่มือของรถยนต์เป็นประจำ
-
ห้ามปล่อยลมยางออก
เมื่อความดันลมยางสูงขึ้นขณะกำลังใช้งาน เพราะความร้อนที่เกิดขึ้นขณะใช้งาน
เป็นตัวทำให้ความดันลมภายในยางสูงขึ้น เมื่อยางเย็นตัวลง
ความดันลมยางก็จะกลับสู่สภาวะปกติ
-
สำหรับยางอะไหล่
ให้ตรวจเช็คลมยางให้ถูกต้องทุกๆ เดือน
-->
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น